เมื่ออภิมหาเศรษฐีจีนเข้าซื้อกิจการฮอลลีวูด ตอน 2

นอกจากการเข้าไปซื้อโรงหนังอันดับ 2 ของอเมริกาแล้ว หวังเจี้ยนหลิน มหาเศรษฐีอันดับสองของจีน เจ้าของเครือต้าเหลียนหวันต้า (Dalian Wanda)  ยังได้เข้าไปลงทุนสร้างหนังฮอลลีวูด โดยร่วมทุนกับ Weinstein สตูดิโอหนังฮอลลีวูด สร้างหนังเรื่อง Southpaw นำแสดงโดย เจค กิลเลนฮาลล์, ฟอเรสท์ วิทเทคเกอร์ และราเชล แมคอดัมส์ ด้วยเงินลงทุนจากฝั่งจีนราว 30 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นเงินลงทุนด้านโปรดักชั่นส์ ส่วน Weinstein ลงทุนด้านการตลาดอีก 35 ล้านดอลลาร์ฯ เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำเงินในสหรัฐฯไปได้ 32.8 ล้านดอลลาร์

ChinaHollywood

การลงทุนครั้งนี้ของหวังเจี้ยนหลิน ไม่ได้หวังเพียงแค่ผลตอบแทนทางการเงิน แต่เขาได้ส่งทีมงานเข้ามาเรียนรู้การผลิตภาพยนตร์จากฮอลลีวูด ตั้งแต่ โปรดักชั่นส์ โพสต์โปรดักชั่นส์ การตลาด ทุกๆขั้นตอน ในขณะเดียวกัน ฝ่าย Weinstein เองก็คาดหวังว่า กลุ่มต้าเหลียนหวันต้าจะช่วยให้หนังเรื่องนี้ได้รับการจัดจำหน่ายในจีนอย่างดี เพราะในจีนนั้น รัฐบาลอนุญาตให้ภาพยนตร์จากต่างประเทศเข้าฉายเพียงปีละ 34 เรื่องเท่านั้น แต่ตลาดภาพยนตร์ของจีนมีขนาดเป็นอันดับสองของโลก รองจากอเมริกาประเทศเดียวเท่านั้น ทำให้การร่วมทุนครั้งนี้เกิดประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย สร้าง Synergy อย่างชัดเจน

ไม่เพียงแต่กลุ่มต้าเหลียนหวันต้าของหวังเจี้ยนหลินเท่านั้น ที่สนใจเข้ามาลงทุนในฮอลลีวูด ยังมีกลุ่มทุนจีนอีกหลายกลุ่มเข้ามาลงทุน เช่น กลุ่ม Alibaba ของแจ็ค หม่า มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของจีน ก็ได้ร่วมลงทุนในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Mission Impossible Rogue Nation ที่นำแสดงโดย ทอม ครูส (แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขการลงทุน) ซึ่งคาดว่าจะทำเงินในจีนได้สูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ หรือการที่ China Film Group ได้เข้าไปลงทุนบางส่วนในภาพยนตร์ Pixels ที่นำแสดงโดย อดัม แซนด์เลอร์ ฯลฯ

จะเห็นว่า กลยุทธ์การรุกอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูดของจีนครั้งนี้ ไม่ได้ไปเพียงบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่ไปกันหลายๆกลุ่ม เป็นการแยกกันเดิน รวมกันตี เพื่อทำให้จีนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของโลก ไม่ใช่เพียงแค่เพราะว่ามีตลาดคนดูที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเดียว แต่หากกลุ่มทุนจีนสามารถเรียนรู้การสร้างภาพยนตร์จากฮอลลีวูดได้จริงๆแล้วละก็ จีนก็จะสามารถสร้างหนังที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของจีนไปทั่วโลกได้ เป็นการใช้อำนาจแบบนุ่มนวล (Soft Power) ที่สหรัฐอเมริกาทำได้สำเร็จจนกลายเป็นมหาอำนาจของโลก ทั้งทางทหาร เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม จีนก็คงเล็งเห็นเรื่องนี้เช่นเดียวกัน จึงผลักดันให้ตนเองเป็นมหาอำนาจของโลกทางวัฒนธรรมให้ได้ผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์นี้เอง ซึ่งจะทำสำเร็จหรือไม่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

*********************************
เขียนโดย พงษ์พันธ์ วงศ์หนองเตย
CelestialStrategist.com
6 สิงหาคม 2558
*********************************

 

 

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s